อยากได้ดีก็ต้องเรียน
อยากมีงานดีๆทำก็ต้องเรียน
อยากรวยก็ต้องเรียน
อยากอยากอยาก เรียน
เรียน เรียน เรียน....
...........................................................................................
แฟนผมเรียนอยู่มหาลัยแห่งหนึ่งมากว่า 7-8 ปีแล้วยังไม่จบ
ไม่ใช่เพราะเธอโง่ หรือไม่ต้องใจเรียน
เธอเคยเรียน.....เรียกได้ว่าจบไปแล้ว แต่....เกรดไม่ออก
เหตุผลคือ ผู้หลักผู้ใหญ่เปลี่ยนหลักสูตรกะทันหัน
ซึ่งไม่ได้มีผลกระทบอะไรมากมายสำหรับมหาลัย
จะมีก็แค่กลุ่มของแฟนผม...กลุ่มเล็กๆ
อาจารย์ที่ปรึกษา...เดินมาบอกว่าทำอะไรไม่ได้
นอกจากย้ายแผนการเรียนและลงเรียนใหม่...เริ่มตั้งแต่ปี
1
.................................................................................................................
ตอนนี้ 15 ตุลาคม 55
เธอจะจบแล้ว.........
..............................
เดินไปติดต่อฝ่ายทะเบียน............เพื่อทำเรื่องจบ
เธอหน้าซีด...เมื่อรู้ข่าวว่า....เปลี่ยนหลักสูตรอีกแล้ว...
และมันทำให้เธอเรียนไม่ครบหลักสูตร...
ทั้งๆที่ตอนลงทะเบียนก็ตรวจสอบดูแล้ว....ว่าจบแน่นอน
พี่ฝ่ายทะเบียนยังอุตสาห์ให้ความหวังว่า....ไม่ต้องลงเรียนใหม่
ให้ทำเรื่องไปยังผู้หลักผู้ใหญ่ในมหาลัย........
..........................................................................................................................
ผู้หลักผู้ใหญ่บอกว่า....ไม่ใช่เรื่องของเค้า
มันเป็นเรื่องของผู้หลักผู้ใหญ่คนเก่า.............
..........................................................................................................................
แฟนผมบอกว่า.....เรื่องจบไม่จบไม่สำคัญแล้ว...
สำคัญที่ความรู้สึกของพ่อแม่.....
เธอรู้สึกเบื่อหน่ายกับระบบการศึกษาของมหาลัยแห่งนี้
เหนื่อย...............................................................................จังคนตัวเล็ก
............................................................................................................................................
ผมไม่ได้ว่าการศึกษาไม่ดี
การศึกษาดีต่อทุกคนเสมอ..
คงนึกน้อยใจ.....แทนคนกลุ่มเล็กๆในสังคม
ว่าแค่อยู่ในกลุ่มเล็กๆก็ไม่ผิดอะไรถ้าจะถูกกระทำ........ดังบทความหนึ่งที่เคยอ่าน
................................................................................
มีเด็กกลุ่มหนึ่งเล่นกันใกล้รางรถไฟ
2 ราง
รางหนึ่งอยู่ในระหว่างการใช้งาน
ในขณะที่อีกรางหนึ่งไม่ได้ใช้งานแล้ว
มีเพียงเด็กคนเดียวเท่านั้นที่เล่นบนรางที่ไม่ได้ใช้งาน
ส่วนเด็กที่เหลือนั่งเล่นอยู่บนรางที่ยังใช้งานอยู่
เมื่อรถไฟแล่นมา
คุณอยู่ใกล้ๆที่สับรางรถไฟ
คุณสามารถเปลี่ยนทางรถไฟไปยังรางที่ไม่ได้ใช้งานเพื่อช่วยชีวิตเด็กส่วนใหญ่
แต่นั่นหมายถึงการเสียสละชีวิตของเด็กคนที่เล่นอยู่บนรางที่ไม่ได้ใช้งาน
หรือคุณเลือกจะปล่อยให้รถไฟวิ่งทางเดิม?
ลองหยุดคิดสักนิด
มีทางเลือกใดที่เราสามารถตัดสินใจได้
คุณต้องทำการตัดสินใจก่อนที่จะอ่านต่อไป
รถไฟไม่สามารถหยุดรอให้คุณไตร่ตรองได้
คนส่วนมากอาจเลือกที่จะเปลี่ยนทางรถไฟ
และยอมสละชีวิตของเด็กคนนั้น
ผมคิดว่า
คุณก็อาจจะคิดเช่นเดียวกัน
แน่นอน
ตอนแรกผมก็คิดเช่นนี้เพราะการช่วยชีวิตเด็กส่วนมาก
ด้วยการเสียสละชีวิตเด็กหนึ่งคนนั้นดูสมเหตุผลทั้งทางศีลธรรมและความรู้สึก
แต่คุณเคยคิดบ้างไหมว่าเด็กที่เลือกเล่นบนรางที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว
ที่จริงเขาได้ตัดสินใจถูกต้อง
ที่จะเล่นในสถานที่ๆปลอดภัยแล้วต่างหาก
แต่ทว่า
เขากลับต้องเสียสละชีวิตให้กับเพื่อนที่ไม่ใส่ใจ และเลือกที่จะเล่นในที่อันตราย
สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นรอบตัวเราทุกวัน
ในสถานที่ทำงาน
ย่านชุมชน การเมืองโดยเฉพาะในสังคมประชาธิปไตย
คนกลุ่มน้อยมักจะถูกเสียสละให้กับผลประโยชน์ของคนหมู่มาก
แม้ว่าคนกลุ่มน้อยจะฉลาด
มองการณ์ไกล และคนหมู่มากจะโง่เง่า ไม่ใส่ใจก็ตาม
เด็กคนที่เลือกที่จะไม่เล่นบนรางที่อยู่ในการใช้งานตามเพื่อนๆของเขา
และคงไม่มีใครเสียน้ำตาให้หากเขาต้องสละชีวิตก็ตาม
เพื่อนที่ส่งต่อเรื่องนี้มาบอกว่า
เขาจะไม่พยายามเปลี่ยนเส้นทางรถไฟ
เพราะเขาเชื่อว่าเด็กที่เล่นอยู่บนรางที่อยู่ในการใช้งานย่อมรู้ดีว่า
รางนั้นยังอยู่ในระหว่างการใช้งาน
และพวกเขาควรจะหลบออกมาเมื่อพวกเขาได้ยินเสียงหวูดรถไฟ
ถ้าทางรถไฟถูกเปลี่ยน
เด็กหนึ่งคนนั้นต้องตายอย่างแน่นอน
เพราะเขาไม่เคยคิดว่ารถไฟจะเปลี่ยนมาใช้เส้นทางนั้น
นอกจากนั้น
รางที่ไม่ได้ถูกใช้งานอาจเป็นเพราะรางนั้นไม่ปลอดภัย
ถ้ารถไฟถูกเปลี่ยนเส้นทางมาที่รางนี้
เราทำให้ชีวิตของผู้โดยสารทั้งหมดตกอยู่ในอันตราย
ในขณะที่คุณพยายามช่วยชีวิตเด็กจำนวนหนึ่งโดยการสละชีวิตเด็กหนึ่งคน
อาจกลายเป็นการสังเวยชีวิตผู้คนนับร้อยก็เป็นได้
เรารู้ว่าชีวิตเต็มไปด้วยการตัดสินใจอันยากลำบาก
บางครั้งเราอาจลืมไปว่า
การตัดสินใจอันรวดเร็วใช่จะเป็นสิ่งที่ถูกต้องเสมอไป
จำไว้ว่า
สิ่งที่ถูกต้องไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่นิยมปฎิบัติ
และสิ่งที่เป็นที่นิยม
ไม่จำเป็นต้องถูกต้องเสมอไป
ทุกๆคนสามารถทำสิ่งผิดพลาดได้
และนั่นคือเหตุผลที่เขาใส่ยางลบไว้ที่ปลายของดินสอ
..........................................................................
0 ความคิดเห็น:
Post a Comment