Monday, June 30, 2014

การบริหารเวลา

การบริหารเวลา

การบริหารเวลา


พระพุทธเจ้าเคยอบรมสั่งสอนมนุษย์ไว้ว่า  ทรัพย์สินที่พึงได้จากการประกอบ กิจการงานต่าง ๆ นั้น ควรแบ่งออกเป็น 4 กองเท่าๆ กัน



  1. กองแรก เก็บสะสมไว้ใช้ยามขัดสน
  2. กองสอง ใช้จ่ายเพื่อทดแทนผู้มีพระคุณ
  3. กองสาม ใช้เพื่อความสุขส่วนตัว
  4. กองสี่ ใช้เพื่อสร้างสรรค์ความดีงามให้แก่สังคม



แล้วการทำงานของมนุษย์ล่ะ  หลายคนยังมัววุ่นแก่การทำงานโดยไม่ ยอมแบ่งเวลาเหลียวหลังมองถึงบุคคลที่รักและห่วงใยตนเองเลยหรือ???

มนุษย์บางคนทุ่มเวลาทั้งหมดให้แก่หน้าที่การงาน พร้อมกับคิดว่าการกระทำดังนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้อง แล้ว
แต่นั่นคือการกระทำที่โง่เขลาเป็น ที่สุด

ทุกคนมีเวลาวันละ 24 ชั่วโมงเท่า ๆ กัน   แต่ผู้ใดที่ทุ่มเวลาทั้งหมดให้กับ งาน  โดยไม่ยอมแบ่งปันเวลาให้แก่ผู้ใด

แม้กระทั่งตัวเองเป็นมนุษย์ที่เขลา เบาปัญญาที่สุด บริหารไม่ได้แม้กระทั่งเวลา  24 ชั่วโมงของตัวเองในแต่ละวันแล้ว มนุษย์ผู้นั้นจะบริหารอะไรได้

ทำไมมนุษย์ผู้ชาญฉลาดจึงไม่แบ่งปันเวลา  ให้เสมือนหนึ่งการแบ่งปันกองเงิน  ตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าบ้างเล่า ...

ไม่ต้องแบ่งเวลาให้เป็นสี่กองเท่า ๆ กันหรอก
เพียงแต่แบ่งปันเวลาในแต่ละส่วนให้ เหมาะสมเท่านั้น



  • 8 ชั่วโมงสำหรับการทำงาน เพื่อความก้าวหน้ามั่นคงในชีวิต
  • 4 ชั่วโมงสำหรับการพักผ่อนเก็บเรี่ยวแรงไว้ต่อสู้กับหน้าที่ การงานและอุปสรรคในวันพรุ่งนี้
  • 4 ชั่วโมงสำหรับการสร้างอนาคต ที่สร้างอิสระภาพทางการเงินและเวลา
  • 5 ชั่วโมงสำหรับการเดินทาง เพื่อประกอบกิจการต่าง ๆ
  • 2 ชั่วโมงสำหรับโลกส่วนตัวของตนเอง
  • 59 นาที สำหรับดูแลและรักษาความสะอาดของที่อยู่อาศัย และช่วยเหลือสังคม  และ 1 นาทีของคุณ



ที่มอบให้กับคนที่รักและห่วงใยคุณ โดยไม่นำเวลาอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะเพียง 1 นาทีนี้ มันมีค่ามากเกินกว่าคณานับได้ในความรู้สึกของเขาคนนั้น  จงอย่ากล่าวว่า " ไม่มีเวลา... "

เพราะเวลาเป็นสิ่งที่ยุติธรรมที่สุด ในโลกนี้ที่มีให้แก่มนุษย์  มนุษย์ทุกคนมีเวลาวันละ 24 ชั่วโมงเท่า ๆ กัน ไม่มีใครมีเวลามาก  และไม่มีใครมีเวลาน้อยไปกว่านี้  24 ชั่วโมงใน 1 วัน ที่มหาเศรษฐี หรือยาจก
มีเท่าเทียมกันไม่ขาดเกินแม้แต่เศษ เสี้ยวของวินาที

ด้วยเหตุนี้ มนุษย์ผู้ใดที่กล่าวว่า " ไม่มีเวลา "  จึงเป็นผู้ล้มเหลวในการบริหารเวลา 24 ชั่วโมง

ในแต่ละวันของตนเองอย่างสิ้นเชิง และใช้คำว่า " ไม่มีเวลา " เป็นข้อแก้ตัวเพื่อปกปิด ความล้มเหลวเรื่องเวลาของตนเองอย่างขลาดเขลา  มนุษย์ผู้ฉลาดและประสบความสำเร็จในชีวิต จึงไม่ใช่ผู้ที่เก่งแต่การทำงาน อย่างเดียว

แต่มนุษย์ผู้ฉลาดและประสบความสำเร็จ ในชีวิต  ต้องเป็นผู้ที่รู้จักแบ่งสัดส่วน เวลาวันละ 24 ชั่วโมงของตนเอง ได้อย่างลงตัว  วันละ 24 ชั่วโมงของตนเอง ที่มีไว้สำหรับการทำงาน การพักผ่อน การเดินทาง มิตรภาพ ความรัก ความอบอุ่น ความห่วงใย ความเอื้ออาทร ฯลฯ  โดยไม่ขาดตกบกพร่องแม้แต่สิ่งหนึ่ง สิ่งใด ที่เข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิต

นี่แหละ คือมนุษย์ผู้ชาญฉลาดที่รู้จัก " ใช้เวลา "  แล้ววันนี้..คุณจะยังอ้างเหตุผลว่า " ไม่มีเวลา " อีกหรือ??


ที่มา : www.ธรรมทาน.blogspot.com

Thursday, June 19, 2014

กลอนเตือนใจ


ท่านพุทธทาสภิขุ

กลอนเตือนใจ


เพราะสังคม  ประเมิณค่า  ที่คนรวย

คนจึงสร้าง  เปลือกสวย  ไว้สวมใส่

หากสังคม  วัดค่า  ที่ภายใน

คนจะสร้าง  แต่จิตใจ  ที่ใฝ่ดี



กลอนเตือนใจ





นกไม่เห็นฟ้า   ปลาไม่เห็นน้ำ

หมู่นกจ้อง มองเท่าไร ไม่เห็นฟ้า

ถึงฝูงปลา ก็ไม่เห็น น้ำเย็นใส

ไส้เดือนมอง ไม่เห็นดิน ที่กินไป

หนอนก็ไม่ มองเห็นคูต ที่ดูดกิน

คนทั่วไป ก็ไม่ มองเห็นโลก

ต้องทุกข์โศก หงุดหงิด อยู่นิจสิน

ส่วนชาวพุทธ ประยุกต์ธรรม ตามระบิล

เห็นหมดสิ้น ทุกสิ่ง ตามจริงเอย ฯ

-ท่านพุทธทาสภิขุ-



Friday, August 2, 2013

พ่อ ลูก ลา กับเสียง นินทา

พ่อ ลูก ลา กับเสียง นินทา


ลา



…… มีพ่อลูกสองคน พ่ออายุ ๖๐ ปี ผมหงอกประปราย ลูกชาย อายุ ๑๒ ปี 

มีอาชีพทางทำไร่


…… วันหนึ่งพ่อพาลูกชายไปซื้อลาที่คอกลาในเมืองมาตัวหนึ่ง ตัวขนาดกลาง 

ไม่ใหญ่ไม่เล็ก เพื่อเอาไว้ใช้ ลากรถบรรทุกสินค้าพืชผลไปขายที่ตลาดในเมือง



…… ขณะนำลากลับบ้านนั้น พ่อให้ลูกชายขี่ลา พ่อเดินจูงลาไป ผ่านไปหมู่บ้านหนึ่ง 

มีคนออกมายืนดู คนหนึ่งพูดว่า อ้ายเด็กคนนี้พิกล ขี่ลาสบาย 

ปล่อยให้พ่อซึ่งเป็นคนแก่ เดินจูงลา ชายผู้พ่อได้ยินดังนั้น ก็ให้ลูกชาย 

ลงจากหลังลา ตนเองขึ้นขี่ลา ให้ลูกเดินจูงลาไป



…… พอผ่านไปถึงอีกหมู่บ้านหนึ่ง ก็มีคนพูดว่า คนแก่จนผมสองสีแล้วขี่ลาสบาย 

ให้เด็กตัวนิดเดียวเดินจูงลา ช่างทารุณเด็กเสียจริง ๆ ชายคนนั้นได้ยินเช่นนั้น 

ก็เอาลูกของตนขึ้นลา ขี่ด้วย แล้วเดินทางต่อไป




……พ่อไปอีกหมู่บ้านหนึ่ง คนในหมู่บ้านนั้นเห็นเข้าก็ พูดว่า พ่อลูกคู่นี้ 

ช่างโหดร้ายทารุณเหลือเกิน ลาตัวนิดเดียว ดันขี่ตั้งสองคน ชายคนนั้น 

ได้ยินเขาพูดดังนั้น ก็พาลูกชายลงจากหลังลา
 
ช่วยเอาเชือกมามัดลาที่สองขาหน้าเปลาะหนึ่ง สองขาหลังเปลาะหนึ่ง 

เอาไม้มาสอดเข้าในระหว่างขาทั้ง ๔ จะหามลาไปโดยให้ลูกชายหาม ทางหัว 

พ่อแบกทางหางลา เด็กกำลังน้อยและเตี้ยกว่าผู้ใหญ่ ทำให้หามไม่สะดวก 

เด็กจึงหาบลง ชักไม้หาบออก คิดว่าจะแก้มัดลา แล้วคิดจะพากันจูงไปดีกว่า 

ลาได้รับความทรมานมาก็ดิ้นรน หลุดจากมือของพ่อลูกแล้ว หลุดลงไปคูข้างถนน 

จะขึ้นก็ขึ้นไม่ได้ เพราะขาทั้ง ๔ ยังถูกมัดอยู่ สองพ่อลูก จะลงไปช่วยก็ไม่ทัน 

ลาจึงจมน้ำตาย อยู่ในคูน้ำนั่นเอง




……นี่แหล่ะโทษของการหวั่นไหว ไปตามคำพูดของคนอื่น จึงทำให้สองพ่อลูก 
เสียลาไปโดยใช่เหตุ


…….ฉะนั้น จงเป็นคนหนักแน่นมั่นคง มีเหตุมีผล อย่าหวั่นไหวโอนเอียง 

ไปตามคำสรรเสริญนินทาเป็นประจำของโลก คนไม่ถูกนินทาเลยไม่มีในโลก 

คนไม่ได้รับการสรรเสริญก็ไม่มีในโลก ต้องประสบทั้งสองอย่าง 

เว้นแต่อย่างไหนจะมากน้อยกว่ากันเท่านั้น คิดได้ดั่งนี้ก็จะได้สบายใจ




ที่มา: http://www.yimwhan.com

Tuesday, January 29, 2013

เคยไหม




เคยไหม  ..  ที่บางครั้งก็ทำอะไรไม่ถูก...  

ทำตัวไม่ถูก  พูดไร  ไม่เป็นตัวเอง  กลัว...ทำให้คนที่เรารัก  ไม่พอใจ

ทั้งที่เราก็ไม่่รู้ว่า  อาการนี้มันเกิดขึ้นจากอะไร  

หรือทั้งหมดนี้เราคิดไปเอง   

แต่คงไม่หรอก  เรารู้สึกได้...   


บางที  คงต้องปล่อยเป็นอย่างนี้ไปสักพัก   

และบางที  คำถามๆนี้   อาจไม่มีคำตอบเลยก็ได้  หรือถ้ามี  อาจจะเป็นความเงียบ  ก็เป็นได้

Saturday, January 26, 2013

ดอกไม้ไร้ความหมาย






เรื่องบางเรื่องที่เราคิดว่ารู้ดีแล้ว   เราอาจไม่รู้อะไรเลยด้วยซ้ำไป


............................................



ความจริงใจ   บางครัี้งก็สือสารลำบากเหลือเกิน


...............................................



คนทุกคนมีเหตุผล  ของตัวเองเสมอ


บางครั้ง  เหตุผลของคนๆหนึ่ง  อาจไม่ใช่เหตุผลของคนอีกคนหนึ่ง



.....................................................


บางทีดอกไม้สวยๆ ก็ไร้ความหมาย  หากไร้คนเชยชม


.....................................................





.ดอกไม้ไรความหมาย




Sunday, December 9, 2012

กำลังใจ








เนื้อเพลง : กำลังใจ

ศิลปิน : โฮป


..ในยามที่ท้อแท้   ขอเพียงแค่คนหนึ่ง

จะคิดถึง   และคอยห่วงใย

ในยามที่ชีวิต   หม่นหมองร้องไห้

ขอเพียงมีใคร   ปลอบใจ สักคน

..ในวันที่โลกร้าง   ความหวังให้วาด

มันขาดมันหาย  ใคร จะช่วยเติม

เพิ่มพลังใจ   ให้ฉันได้เริ่ม

ต่อสู้อีกครั้ง   บนหนทางไกล

..กำลังใจ   จากใครหนอ

ขอเป็นทาน   ให้ฝันให้ใฝ่

ให้ชีวิต ได้มีแรงใจ   ให้ดวงใจ

ลุกโชนความหวัง   กำลังใจ จากใครหนอ

ขอเป็นทาน   ให้ฉันได้ไหม

ดั่งหยาดฝน    บนฝากฟ้าไกล

ที่หยาดริน   สู่พื้น ดินแห้งผาก


................................................................

สู้ๆ

Thursday, November 22, 2012

ณ โรงพยาบาล


.
.


20/11/55  ผมเดินทางไปที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง 

เพื่อไปเยี่ยมคนๆหนึ่ง    ซึ่งผมก็ไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย

ผู้ป่วยเป็นผู้หญิงอายุประมาณ 15-16    ปี

ซึ่งเขาเป็นผู้โชคร้ายประสบอุบัติเหตุรถชน

ซึ่งผู้ที่ชนนั้นเป็นพ่อของแฟนผมเอง

แต่พ่อของแฟนผมนั้นไม่เจ็บอะไรมากมาย

ส่วนเด็กสวยอายุ 15-16 ปี  อาการหนัก  อยู่ในห้อง ICU

ผมเดินเข้าเยี่ยม   ในห้อง  ICU  ภาพแรกที่เห็น

  มีคนป่วยที่อยู่ห้อง ICU มากมาย  นอนหายใจแผ่วๆ...เบาๆ...

ตามร่างกายก็มีสายพลาสติกเจาะทะลุโยงไปมาเต็มไปหมด

ข้างๆเตียงก็เต็มไปด้วยญาติพี่น้อง   ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล  และลึกลงไปในแววตาเต็มไปด้วยความหวัง

หวังว่าสักคนหนึ่งคนที่หายใจแผ่วเบาอยู่บนเตียง  จะลืมตาและลุกขึ้นมาคุยกับเขาอีกครั้ง

มันทำให้ผมรู้สึกหดหู่ใจมาก   ผมลองนึกถึงตัวผมที่ต้องนอนหายใจแผ่วๆอยู่บนเตียง

ทำให้ผมนึกคิดขึ้นมาได้ว่า   คนเราก็แค่นี้และนะ.......ไม่เห็นจะมีอะไรมากเลย

..............................................

ก็แค่เกิดมา.........แล้วก็ตาย..

..............................................

ผมเดินต่อไปยังเตียงที่น้องอายุ 15-16 นอนอยู่ (ผมไม่ทราบชื่อนองเขาจริงๆ)

เด็กหญิงดูอาการจะดีกว่า  หลายๆเตียงที่ผมเดินผ่านมา

แต่ก็ไม่ทำให้พ่อที่อยู่ข้างๆหายกังวลมากนัก 

พ่อของน้องเห็นผมกับแฟนเดินไปก็ทำหน้างงเล็กน้อย(เพราะไม่เคยรู้จักกัน)

พ่อแนะนำตัวเอง  แกก็ยิ้มออกมาเบาๆ  แฝงด้วยแววตากังวล

ผมยืนกอดอกดูเด็กหญิงที่นอนหลับอยู่

รู้สึกสงสารและเป็นห่วงมากๆ

หวังว่าเธอคงหายในเร็ววันนี้

Friday, November 16, 2012

ซื่อสัตย์







เรามักตกอยู่กับความทุกข์   ที่เกิดจากตัวเราเอง

ยกตัวอย่างง่ายๆ  มีคนมาพูดให้เราเพียงสองสามคำ

แล้วเขาก็เดินจากไป.....  โดยที่เขาอาจไม่ได้รู้สึกผิดเลยด้วยซ้ำไป

แต่กับคำเพียง สองสามคำที่เขาพูด  กับทำให้เราเป็นทุกข์ 
.
.
.
......................................................................
    
มันถูกแล้วเหรอ  ???

................................................................


อย่า.....ทุกข์....อย่า...จม..กับ...คำ...ของ...คน

...................................................................

ไม่ว่าวันนี้หรือพรุ่งนี้

ใครจะคิดยังไง 

ก็ชั่งเขา

 จะสนทำไม 

สนเพียงแค่.....วันนี้เราเราซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของเราหรือป่าว 

เท่านั้นก็พอแล้วมั้ง ....  ผมว่านะ

................................................^_^........................................

Monday, November 12, 2012

อย่ายัดเยียด









การที่เรารัก.....ที่ทำอะไร   หรือชอบ....ที่จะทำอะไร   

อย่าคิดว่าคนอื่นจะรักจะชอบเหมือนกับเราได้ทุกๆเรื่อง

อย่าบังคับให้ใครต้องรักต้องชอบเหมือนกันกับเรา  

และอย่าพยามยัดเยียดความเป็นเราให้กับใคร

เพราะคงไม่มีใครชอบในเราทุกอย่างๆเสมอไป    

และอย่าให้ใครยัดเยียดความเป็นเขาให้กับเรา

เพราะบางทีเหตุผลของคนๆหนึ่ง
  
อาจไม่ใช่เหตุผลของคนอีกคนหนึ่ง

................................................................................................


ใจเขาใจเรา


...............................................^_^...........................................

Saturday, November 10, 2012

นิยามความรัก





เสียงโหวกเหวกโวยวายดังขึ้น  ก่อนสว่างเพียงไม่กี่ชั่วโมง
เป็นเสียงผู้หญิงที่ร้องออกมาดังเสียจนทำให้ผมสะดุ้งตื่น
เสียงร้องนั่นไม่ได้เป็นเสียงร้องแห่งความเจ็บปวดอะไรมากนัก
เพียงแต่เป็นเสียงร้องแห่งการเอาชนะเท่านั้น

.........................................................


รุ่งเช้าของวันที่  6/11/55
ชายหญิงคู่หนึ่งทะเลาะกันอย่างหนัก
แต่มันเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับคู่นี้
ผมและแฟนผมรู้สึกหงุดหงิดมากที่มีการทะเลาะกันในแต่ละครั้ง
เพราะมันทำให้ผมและแฟน  ไม่ได้นอน  เพราะมลพิษทางเสียง
คู่นี้ทะเลาะกันแทบจะทุกวันก็ว่าได้ 


................................................


ผมพูดกับแฟนผมโดยยังไม่ได้ทันคิดออกมาว่า
ทะเลาะกันขนาดนี้  ทำไมไม่เลิกกันไปซะ
อยู่กันไปทำไมวะ...  ((พูดด้วยความหงุดหงิดของผมเอง

...............................................................


แต่เมื่อลองคิดลึกลงไปแล้ว
คำว่า ความรัก  นิยามของมันอาจแตกต่างกันออกไป
อยู่ที่คนสองคน ว่าจะนิยามมันขึ้นมาแบบไหน
และนั้น  อาจเป็นความรักในนิยามของ  หญิงชายคู่นี้ก็ได้
เพราะคงไม่มีใครรู้ว่า  ลึกๆแล้ว  สองคนนี้รักกันมากเพียงใด
หรืออาจจะไม่ได้รักกันเลย.....   
แต่อยู่ด้วยกันเพราะ  การให้คำนิยามความรักของคนสองคนนี้  ผิดเพี้ยนไปจากคนปกติทั่วไป
ซึ่งผมก็ไม่สามารถที่จะทราบได้เหมือนกัน
.
.
แต่ที่รู้ๆ ชายหญิงคู่นี้ก็ยัง  อยู่ด้วยกัน


........................................................................................


แต่ในนิยามความรักของผม
ความรักสวยงามเสมอ  ไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นในรูปแบบไหน
อาจจะมีบาดแผลจากความรักบ้าง  แต่บาดแผลมันก็ยังสวยงามเสมอ.


...............................^_^................................

ป้ายกำกับบทความดีๆ

กลอน การเดินทางของความรัก การบริหารเวลา กำลังใจ โกงความตาย ขนาดของความสุข ข้อคิด ความรัก ความรักของผู้หญิง ความลับในใจ ความหมายของชีวิต คำคม คำถามชีวิต เงิน จะสุขจริงเหร๊อ.. ใจเขาใจเรา ใจใครใจมัน ใจเท่านั้นที่ซื้อใจได้ ช่วงเวลาหนึ่ง ซื่อสัตย์ ณ โรงพยาบาล ดอกไม้ ดอกไม้ไร้ความหมาย เตือนใจ ทำ..ในสิ่งที่อยากจะทำ ทำใจ ที่หนึ่ง แท้จริงแล้ว ธรรมชาติ ในหัวใจมนุษย์ บทความดีๆ บนหอคอยสูงแห่งนั้น บางครั้ง ปรัชญา ผลประโยชน์บนความรู้สึก ผีเสื้อ พระเครื่อง พ่อ ลูก กับเสียงนินทา เพราะชีวิตคือชีวิต เพื่อน ฟ้ามืด มองมุมต่าง มุมมองชีวิต เมื่อถึงวันนั้น เมื่อรู้สึกสิ้นหวัง เมื่อเราต้องห่าง ยุติธรรม ระบบผู้หลักผู้ใหญ่ รักที่ไม่ถูกต้อง เรื่องของความรัก ลังเล โลกนี้ไม่มีอะไรสมบูรณ์ โลกมันโหดร้าย วีรบุรุษที่แท้จริง สับสน สิ่งที่เรามี สิ่งเล็กๆ หยุดคิดสักนิด หลุมดำ เหงา อย่ายัดเยียด อุ่นใจเมื่อได้อยู่ใกล้เธอ